กระทู้เมื่อเร็วๆ นี้

หน้า: [1] 2 3 ... 10
1
M17 Digital Voice Protocol / เล่น M17 บนอุปกรณ์ M5STACK
« กระทู้ล่าสุด โดย HS5TQA เมื่อ พฤศจิกายน 17, 2020, 01:27:07 PM »
M5DV Digital Voice Project
โปรเจ็คทำ M5Stack มาคุยดิจิตอลวอยส์ ด้วยโหมด M17 ผ่านไวไฟ แสดงผลบนหน้าจอ ตั้งค่าผ่านเว็บ กดคีย์พูดเมื่อต่อไมค์ หรือเฝ้าฟัง

อุปกรณ์ที่ต้องใช้
1.M5Stack 1ตัว
2.Mic MAX9814 Adafruit 1ตัว
การเชื่อมต่อให้ ต่อขาไมค์ Vdd->3.3V,GND->GND และ Out -> GPIO36 (AD) ในส่วนขา Gain ต่อเข้ากับ Vdd เสียงจะเบาสำหรับคนพูดเสียงดัง
*ไมค์ใช้รุ่นอื่นได้แต่ต้องทำหรือตั้ง Offset DC ไว้ที่ 1.25V

การติดตั้งเฟิร์มแวร์ให้ M5STACK (ทำครั้งแรก ต่อไปอับเดทผ่านเว็บ)
1.ต่อสาย USB เข้ากับ M5STACK
2.ดาวน์โหลดเฟิร์มแวร์และเปิดโปรแกรม ESP32 DOWNLOAD TOOL ให้ตั้งค่าในโปรแกรมอับโหลดเฟิร์มแวร์กำหนดตัวเฟิร์มแวร์ไว้ M5DV_Vxx.bin ตำแหน่ง 0x10000 และ partitions.bin ที่ 0x8000 และ bootloader.bin ที่ 0x10000 และ boot.bin ที่ 0xe000 ถ้าอับโหลดไม่เข้าให้ต่อสาย GPIO0 ลง GND กดปุ่ม START เสร็จแล้วให้กดปุ่มเพาเวอร์หรือรีเซ็ต(แดง) อีกครั้ง
3.ให้กดปุ่มซ้าย(A)ค้างไว้แล้วกดปุ่มเปิดสวิทซ์หรือเสียบปลั๊กเพื่อตั้งค่าเริ่มต้น
4.จากนั้นก็ไปต่อ WiFi ชื่อ SSID: M5DV แล้วเปิดบราวน์เซอร์เข้าเว็บ http://192.168.4.1 คอนฟิกซ์ได้เลย หรือเปิดเร้าเตอร์/แชร์ไวไฟชื่อ SSID: APRSTH Pass: aprsthnetwork  แล้วเข้าด้วยไอพีจาก M5Stack ได้รับ ดูไอพีได้ที่หน้าจอแสดง LCD

การตั้งค่าใช้งานผ่านเว็บบราวน์เซอร์
1.ตั้งค่าไวไฟในแท็บ Setting เชื่อมต่อไปยังเราเตอร์หรืออุปกรณ์ที่แชร์อินเทอร์เน็ตไว้ ตามชื่อเร้าเตอร์ (SSID) และรหัสผ่าน
2.ตั้งค่าใช้งานดิจิตอลวอยส์ในแท็บ IoT  ในด้านเซิร์ฟเวอร์บริการรีแฟล็กเตอร์ยังไม่ต้องแก้ไข(นอกจากทดลองใช้ที่อื่น ๆ) ให้ ห้องทดสอบในช่อง M17 Module มีบริการ 26ห้อง A-Z ใส่หนึ่งตัวอักษร ด้านผู้ใช้ใส่นามเรียกขานตนเองในช่อง myCallSign  และลำดับอุปกรณ์(บางคนใช้หลายเครื่อง) กำหนดใส่ได้ 26ตัว A-Z หนึ่งตัวอักษรเช่นกัน

ดาวน์โหลดเฟิร์มแวร์ได้ที่ https://www.dprns.com/index.php?ind=downloads&op=entry_view&iden=70
2
M17 Digital Voice Protocol / เล่น M17 บน DUDE Star โปรแกรมบน PC
« กระทู้ล่าสุด โดย HS5TQA เมื่อ พฤศจิกายน 17, 2020, 01:21:21 PM »
M17 Project
------------------
M17 คือ ดิจิตอลวอยส์สำหรับนักวิทยุสมัครเล่น อีกรูปแบบหนึ่งที่กำลังพัฒนาขึ้น ที่ต่างไปจาก DMR/DSTAR/YSF/P25/NXDN ที่พัฒนาขึ้นภายใต้โครงการ Open Source Project ที่ใช้ M17 เป็นโปรโตคอลการสื่อสาร และใช้ Codec2 ร่วมเป็นตัวถอดรหัสเสียง ดังนั้นจึงง่ายต่อการนำไปพัฒนาเองต่อยอด จะนำไปเขียนโปรแกรม แอป หรือทำวิทยุขึ้นมาใช้เองก็ได้ อย่างเช่น DUDE-Star และ DroidStar

สำหรับท่านที่ต้องการทดลองใช้ ทดลองฟังเสียง ให้ดาวน์โหลดโปรแกรม dudestar มาใช้ทดลองคุยได้เลย
ข้อมูลที่จำเป็นต้องเลือกใส่  Mode: M17  Host: M17-THA  Module: A-Z Callsign:.......  แล้วกดปุ่ม Connect ฟังและคุยด้วยปุ่ม TX ได้เลยครับ

ดาวน์โหลดโปรแกรมโดยตรงได้ที่ https://github.com/nostar/dudestar/releases/download/c2a7a09/dudestar.exe

หากต้องการทราบว่าใครคุยอยู่บ้าง หรือเปิดไว้บ้าง ที่ห้องไหน? ดูได้จากลิงค์นี้ครับ
https://m17.dprns.com
3
M17 Digital Voice Protocol / เล่น M17 บน DroidStar แอปบนแอนดรอย
« กระทู้ล่าสุด โดย HS5TQA เมื่อ พฤศจิกายน 17, 2020, 12:42:25 PM »
M17 Project
------------------
M17 คือ ดิจิตอลวอยส์สำหรับนักวิทยุสมัครเล่น อีกรูปแบบหนึ่งที่กำลังพัฒนาขึ้น ที่ต่างไปจาก DMR/DSTAR/YSF/P25/NXDN ที่พัฒนาขึ้นภายใต้โครงการ Open Source Project ที่ใช้ M17 เป็นโปรโตคอลการสื่อสาร และใช้ Codec2 ร่วมเป็นตัวถอดรหัสเสียง ดังนั้นจึงง่ายต่อการนำไปพัฒนาเองต่อยอด จะนำไปเขียนโปรแกรม แอป หรือทำวิทยุขึ้นมาใช้เองก็ได้ อย่างเช่น DUDE-Star และ DroidStar

สำหรับท่านที่ต้องการทดลองใช้ ทดลองฟังเสียง ก็ใช้มือถือแอนดรอยโหลดแอป DroidStar มาใช้ทดลองคุยได้เลย
ข้อมูลที่จำเป็นต้องเลือกใส่  Mode: M17  Host: M17-THA  Module: A-Z Callsign:.......  แล้วกดปุ่ม Connect ฟังและคุยด้วยปุ่ม TX ได้เลยครับ

หากต้องการทราบว่าใครคุยอยู่บ้าง หรือเปิดไว้บ้าง ที่ห้องไหน? ดูได้จากลิงค์นี้ครับ
https://m17.dprns.com
4
M17 Digital Voice Protocol / M17-THA Reflector
« กระทู้ล่าสุด โดย HS5TQA เมื่อ พฤศจิกายน 17, 2020, 12:36:55 PM »
ทำงานเป็นเซิร์ฟเวอร์เพื่อให้อุปกรณ์ดิจิตอลวอยส์คุยได้ไกลเป็นกลุ่มได้โดยผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ซึ่งต้องใช้อุปกรณ์คุยโดยตรงหรือเกตเวย์ฮอตสปอร์ต เป็นต้น โดยเรามีให้บริการดังข้อมูลต่อไปนี้

M17 Reflector
Name: M17-THA
IP: 203.150.19.24
PORT: 17000
Dashboard: https://m17.dprns.com

5
KNOWLEDGE / เนื้อหาสาระความรู้ / การตั้งค่า pi-star ให้รองรับ XLX966
« กระทู้ล่าสุด โดย HS5TQA เมื่อ ธันวาคม 03, 2018, 01:09:06 AM »
     สำหรับการลงโปรแกรม pi-star และการใช้งานร่วมกับโมเด็มอื่น ๆ เช่น MMDVM นั้นจะไม่ขอกล่าวไว้ในที่นี้นะครับ

1.เข้าสู่หน้าเว็บคอลโทรลของ pi-star แล้วไปที่เมนู Configuation แล้วเลือกหัวข้อ Expert และตามด้วยหัวข้อ SSH Access เพื่อเข้าสู่เชลคอมมานด์ไลน์


2.จะขึ้นหน้าจอดำ ๆ กับให้ล๊อกอินด้วยยูสเซอร์ pi-star และรหัสผ่าน raspberry เป็นค่าดีฟอลล์ หรือใช้ตามที่ได้แก้ไขไปแล้ว หากผ่านก็จะขึ้นโลโก้ PI-STAR และล่างสุดเครื่องหมายพรอมด์ $
http://dprns.com/images/pistarUpdate_1.jpg

3.จากนั้นก็บรรเลงพิมพ์ ตามคำสั่งได้เลยครับ
-พิมพ์ rpi-rw กด Enter  (เป็นคำสั่งให้ใช้โหมดเขียนได้ ถ้าตรงวงเล็บเป็น rw อยู่แล้วไม่ต้องพิมพ์คำสั่งนี้ก็ได้)
-พิมพ์ wget http://dprns.com/script/pistarUpdate.sh  กด Enter (เป็นคำสั่งดาวน์โหลดสคริปไฟล์ที่ผมทำไว้บนอินเทอร์เน็ต)
-พิมพ์ sudo chmod 755 pistarUpdate.sh  กด Enter (เป็นคำสั่งกำหนดให้ไฟล์สคริปที่ดาวน์โหลดมา มันสั่งรันได้)
-พิมพ์ sudo ./pistarUpdate.sh กด Enter (เป็คคำสั่งให้รันสคริปไฟล์)


4.เมื่อเสร็จในขั้นตอนที่ 3 ให้ทำเพียงครั้งเดียวเท่านั้น หลังจากนี้สามารถกดปุ่ม Update ที่หน้าเว็บของ pi-star ได้เลย ไม่ต้องกลับมาทำใหม่อีก
-พิมพ์ sudo nano /etc/dmrgateway กด Enter (เพื่อแก้ไขไฟล์การเชื่อมต่อของ DMR โดยใช้โปรแกรม nano แก้ไข)


5.ให้เลื่อนลงมาในกรอบ [XLX Network] ให้แก้ไขค่าดังนี้
อ้างถึง
[XLX Network]
Startup=966
Enabled=1
File=/usr/local/etc/XLXHosts.txt
Port=62030
Password=passw0rd
Slot=2
TG=6
Base=64000
Relink=60
Id=520xxxx
Debug=0
เมื่อแก้ไขค่าเสร็จแล้วให้กดปุ่ม Ctl ค้างไว้แล้วกด o เพื่อเขียนไฟล์ และกด Ctl+x เพื่อออก เป็นอันเสร็จสิ้น


6.เมื่อแก้ไขไฟล์ในข้อ 1-5 แล้ว ให้กลับมายังเมนู Configuration เพื่อตั้งค่าเลือกใช้งาน ในตัวอย่างจะใช้โหมด DMR นะครับ


7.เลือกโหมดในข้อ 6 แล้วถัดลงมา ให้ใส่ค่าตามที่จะใช้งาน สำคัญตรงส่วน Callsign,DMR ID และ Frequency ต้องใส่ให้ตรงกับวิทยุ


8.ในส่วนของการตั้งค่า DMR Configuration ถัดลงมา สำคัญตรงกรอบสีม่วง ให้เลือก XLX Master เป็น XLX_966  และ XLX Master Enable เพื่อให้เชื่อมต่อมาจากรีเฟล็กเตอร์ XLX966 นั่นเองครับ ส่วนค่าอื่น ๆ แล้วแต่การใช้งานของท่าน


9.เมื่อตั้งค่าเสร็จแล้วกด Apply Changes แล้วกลับไปดูหน้า Dashboard ในกรอบด้านซ้าย จะอยู่ในโหมด DMR ดังภาพ


10.กลับไปเช็คที่หน้าเว็บรีเฟล็กเตอร์ที่ http://dstar.dprns.com ก็จะขึ้นชื่อสถานีเราเชื่อมต่ออยู่ในโปรโตคอลของ DMRMmdvm ดังภาพ

6
KNOWLEDGE / เนื้อหาสาระความรู้ / การโปรแกรมตั้งค่าวิทยุ Baofeng GT-3 DMR
« กระทู้ล่าสุด โดย HS5TQA เมื่อ ธันวาคม 03, 2018, 12:36:20 AM »
     สำหรับวิทยุยีห้อ Baofeng รุ่น GT-3 DMR นั้น เป็นโมเดลเดียวกับรุ่น DM-5R Plus ที่ปรับปรุงมาแล้ว ซึ่งเป็นรุ่นพิเศษที่ทำรูปลักษณ์ออกมาแตกต่างจากเดิมมาก แต่ภายในเหมือนกัน ใช้โปรแกรมซอฟร์แวร์ตั้งค่าตัวเดียวกัน และสายเคเบิ้ลสำหรับลิงค์เหมือนกัน


1.ดาวน์โหลดโปรแกรม ได้ที่ http://www.dprns.com/index.php?ind=downloads&op=entry_view&iden=54
2.ทำการติดตั้งโปรแกรม จะได้ไอคอนรูปวิทยุชื่อ CPS_5R
3.เชื่อมต่อสายเคเบิ้ลลิงค์ USB->วิทยุ ถ้าไม่มีสามารถต่อได้เองได้ดังวงจรการต่อในภาพ


4.เปิดโปรแกรม CPS_5R แล้วไปที่เมนู Device -> Comm Port


5.เลือก COM PORT ตามที่เสียบสายเคบิ้ลเข้าไป(แต่ละเครื่องไม่ตรงกัน) ส่วนความเร็วเลือก 57600 เท่านั้น


6.กลับมาที่เมนูเลือกหัวข้อ Device -> Read Data เพื่ออ่านข้อมูลจากวิทยุรับส่งมายังคอมพิวเตอร์


ถ้าอ่านได้จะขึ้นแทบบาร์ รอจนเสร็จ


7.เมื่อเสร็จแล้วจะได้รายการเมนูขึ้นมา กดที่หัวข้อ DMR Info จะพบข้อมูลของตัววิทยุรับส่ง ซึ่งในที่นี้เป็นโมเดลของ 5R นั่นเอง


8.การตั้งค่าเพื่อใช้งาน DMR ให้คลิ๊กที่เมนู Base Set -> Set ก็จะขึ้นหน้าต่างตั้งค่าอื่น ๆ มาให้ ในที่นี้ให้ใส่นามเรียกขาน และไอดี DMR (ให้ตรงกับ pi-star) ในกรอบสีส้มตามภาพ ส่วนอื่น ๆ ตั้งค่าได้ตามชอบ


9.ไปที่เมนู Contact ในลำดับแรก กำหนดคุยในกลุ่มจึงได้ใส่เป็นชื่อ XLX966 เป็น Group Call ตรง Call ID กำหนดเป็นเลข 6 (ตรงกับใน pi-star จะเป็น TG=6) ส่วนลำดับอื่น ๆ ได้ใส่ผู้ติดต่อท่านอื่น ๆ เอาไว้  หาชื่อและไอดี DMR ของคนอื่นได้ที่ http://ham-digital.org/dmr-userreg.php?callsign=HS5TQA  สำหรับส่วน COntacts นี้จะสามารถเลือกใช้ได้จากหน้าปัทม์วิทยุ
 

10.การตั้งค่าช่องใช้งาน ไปที่ช่อง Channel เลือกลำดับแรก(Chn0->XLX966)  ในหน้าต่าง Channel List ลำดับ No. 1 แก้ไขในช่องที่สำคัญดังนี้
-ใน Channel Type เลือกเป็น Digital CH
-RX/TX Frequency ใส่ความถี่ใช้งาน ให้ตรงกับ MMDVM/pi-star
-Channel Name แก้ไขเป็น XLX966
-CC เลือกเป็น 1
-Slot เลือกเป็น Slot 2
-GroupList เลือกอันแรก
-Contacts เลือก XLX966 (เป็นชื่อที่เราได้ตั้งมาจากข้อ 9)
 

11.การตั้งค่าเบื้องต้นที่สำคัญ ในการใช้งาน DMR เสร็จแล้ว เราก็จะไปที่เมนู Device -> Write Data เพื่อเขียนข้อมูลกลับไปใส่วิทยุเพื่อใช้งาน
 

รอจนเสร็จ
 

12.การตั้งค่าหรือการเลือกใช้งานต่าง ๆ บนหน้าจอวิทยุรับส่ง มีส่วนสำคัญภาพต่อไปดังนี้
-แสดงหน้าจอใช้งานในโหมดหน่วยความจำ ซึ่งมันจะแสดงชื่อ XLX966 ในช่อง 0 ปกติถ้าใช้โหมดนี้เราไม่ต้องตั้งค่าอะไรเพิ่มเพราะทำในโปรแกรมแล้ว แต่เรายังสามารถไปเลือกการใช้งานเพิ่มเติมได้เองใน MENU นะครับ


-ใน MENU -> MODE ให้เลือกโหมด DMR


-ใน MENU -> MDF-A ให้เลือกเป็น NAME (ซึ่งหน้าใช้งานมันจะแสดงชื่อ XLX966)


-ใน MENU -> BS-SLOT ให้เลือก SLOT2 คือใช้ช่องเสียงที่ 2


-ใน MENU -> ENC-KEY ให้เลือก OFF  คือไม่ต้องเข้ารหัสเสียง


-ใน MENU -> CC ให้เลือก 1 คือ Color Code ให้ตรงกับ pi-star


-ใน MENU -> CONTCT ให้เลือก G   6 คือใช้กลุ่ม 6 หรือ TG=6 ตรงกับใน pi-star
7
พูดคุยเรื่องทั่วไป / Re: ข่าวกีฬา
« กระทู้ล่าสุด โดย nuning เมื่อ มีนาคม 30, 2018, 04:10:59 PM »
ฉันได้อ่านข้อมูลของคุรแล้วถือเป็นข่าวสารน่ารู้ที่น่าติดตาม




viva9988 holiday 
8
General Knowledge / ความรู้ทั่วไป / Re: Modulation Type
« กระทู้ล่าสุด โดย mukeiei เมื่อ มีนาคม 28, 2018, 03:38:50 PM »
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆและเป็นประโยชน์ต่อทุกคน เพิ่งได้รู้ข้อมูลดีๆก็วันนี้เองค่ะ

viva3355
9
D-STAR / Re: ICOM_ID51: การตั้งค่าสถานี (เริ่มต้นใช้งาน)
« กระทู้ล่าสุด โดย mukeiei เมื่อ มีนาคม 26, 2018, 02:39:41 PM »
เป็นข้อมูลที่ให้ความรู้ สำหรับใครที่กำลังสนใจต้องขอบคุณมากจริงๆ




IBCbet 
10
Technology Review / IoT on LoRa Based Applications
« กระทู้ล่าสุด โดย HS5TQA เมื่อ มีนาคม 25, 2018, 11:44:03 PM »
By Semtech (LoRa World Class Company and Dr.Wanarat-PSU)

เปิดมุมมอง และแสวงหาโอกาสทางธุรกิจ ด้วย Technology & Trend สำหรับ IoT ด้วย LoRa โดย Semtech เจ้าของ และผู้มีอำนาจสูงสุดสำหรับ LoRa ChipSet ของโลกในขณะนี้ ที่ให้เกียรติมาร่วมเสวนา บอกเล่าเกี่ยว Technology RoadMap ของ LoRa สำหรับผู้ประกอบการที่จะทำ Devices and Systems Solution พึงรู้ และวางกลยุทธิ์ เพื่ออนาคตกันยาวๆ นะคะ พร้อมแนวคิด และไอเดียต่างๆ สำหรับแอพลิเคชั่นทางด้าน IoT ที่ได้นำไปใช้ในที่ต่างๆ จากทั่วโลกมาแล้ว เป็นต้น

และมาร่วมเจาะลึกไปกับผู้ดำเนินรายการที่ได้ศึกษาเชิงลึก และได้ทดลอง LoRa ในมิติต่างๆ มาแล้ว ของเครือข่าย TESA โดย ดร.วรรณรัช สันติอมรทัต หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์-PSU.

บทสรุปโดย ดร.ศุภชัย วรพรจน์พิศุทธิ์ -TU และกรรมการ TESA

บันทึกจากการฟังกิจกรรม **IoT on LoRa based Applications** ที่อาคาร NIA กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2560 กิจกรรมนี้จัดโดย ICIC ที่เป็นความร่วมมือระหว่าง NIA, CAT และ TESA เพื่อผลักดันให้เกิดการเติบโตของธุรกิจ IoT กิจกรรมนี้ได้ทีมวิศวกรจากบริษัท Semtech ที่เป็นเจ้าของเทคโนโลยี LoRa และเป็น founder ขององค์กร [LoRa Alliance](https://www.lora-alliance.org/) ที่กำหนดมาตรฐานของโพรโทคอลเปิด LoRaWAN มาพูดถึงจุดเด่นต่างๆของ LoRa ตัวอย่างของแอพพลิเคชัน รวมทั้งให้ข้อมูลเปรียบเทียบกับ NB-IoT คนที่เข้าร่วมจะสามารถขอสไลด์และเอกสารทางเทคนิคได้จาก TESA จึงจะขอเขียนสรุปเป็นประเด็นที่คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับธุรกิจหรือนักพัฒนาที่จะนำ LoRa มาใช้

## เทคโนโลยี LoRa เหมาะกับ IoT อย่างไร
LoRa เป็นเทคโนโลยีสื่อสารแบบ LPWAN (low-power wide area network) ที่มีจุดเด่นในแง่ระยะสื่อสารไกล ราคาถูก และเป็นเทคโนโลยี (กึ่ง) เปิด โดยบริษัท Semtech ที่ถือสิทธิบัตรของการมอดูเลชันของ LoRa จะทั้งผลิตและให้ไลเซนส์บริษัทอื่นๆผลิตด้วย การใช้ LoRa อยู่ใน segment ของตลาดที่เป็นจุดอ่อนของ 3G/4G ที่มีรัศมีครอบคลุมกว้าง ความเร็วสูง มี QoS ระดับดี แต่มีข้อเสียเปรียบในแง่ค่าใช้จ่ายต่อเดือนที่สูงและการใช้พลังงานสูง ซึ่งเกิดจากการลงทุนที่สูงทั้งในแง่อุปกรณ์ basestation ค่าเช่าพื้นที่ และค่าไลเซนส์ของย่านความถี่ แนวทางของ LoRa จึงมาเจาะตลาด WAN ที่มีราคาถูก โดยตัวอุปกรณ์จะถูกทั้งในส่วนโหนด (< $10) และเกตเวย์ (< $1000) ไม่จำเป็นต้องลงทุนสูงในส่วนเซิร์ฟเวอร์ และใช้ย่านความถี่ ISM ที่ไม่ต้องขอไลเซนส์ โดยแลกกับอัตราข้อมูลต่ำและความน่าเชื่อถือของการสื่อสาร

ตัวอย่างของแอพพลิเคชันที่พัฒนาแล้วหรือใช้งานจริงจะมีอยู่ในหลายประเทศ
* อินเดีย
* มิเตอร์ของแก๊สและน้ำ
* การควบคุมไฟถนน
* รถห้องเย็น
* ออสเตรเลีย
* การตรวจสอบสภาพแวดล้อมทางไกล เช่น ระบบชลประทาน สถานะน้ำเค็ม
* ความชื้นในดิน
* ไต้หวัน
* การติดตามรถขนของ
* การจัดการที่จอดรถอัจฉริยะ

ในปัจจุบัน ประเทศฝรั่งเศสมีผู้ประกอบการมากที่สุดที่ลงทะเบียนเป็น adopter กับ LoRa Alliance โดยเน้นไปที่ตลาดของอุปกรณ์การเกษตร รองลงมาเป็นประเทศอินเดียและไต้หวัน

## การออกแบบอุปกรณ์ที่เป็น LoRa ควรรู้อะไรบ้าง
จุดขายในแง่ WAN ของ LoRa เกิดจากการเลือกใช้มอดูเลชันแบบ chirp spread spectrum โดยกระจายรหัสข้อมูลไปในช่องความถี่ต่างๆด้วยการปรับแต่งค่า spreading factor (SF) เช่น SF7 จะกระจายไปใน 7 ช่องความถี่ ทำให้มีความไวต่อการรับสัญญาณสูงขึ้น ทนทานต่อสัญญาณรบกวน และมีการกินพลังงานที่ต่ำ แต่การส่งข้อมูลจะช้าลงตามจำนวนช่องสัญญาณที่ใช้ ตัวชิพสื่อสารของ Semtech จะทำงานเพียงระดับ PHY (half duplex) และบางฟีเจอร์ของเลเยอร์ Data Link (ตรวจจับ preamble แล้วจับเฟรมข้อมูล) โดยจะส่งผ่านข้อมูลไปยังหน่วยประมวลผลที่จะต้องจัดการส่วนโพรโทคอลในชั้นที่เหลือเอง

ชิพสื่อสารของ Semtech จะแบ่งออกเป็น 2 ตระกูล

* ชิพ SX127x สำหรับโหนดที่จะสื่อสารด้วยช่องสัญญาณเดียว โดยแบ่งออกเป็นรุ่นย่อยตามย่านความถี่ เช่น ย่านความถี่ 868MHz และ 915MHz จะเป็นรุ่น SX1278 องค์ประกอบที่เหลือจะเป็นวงจร RC สำหรับเป็น matching network ทำให้โมดูลสื่อสารจะผลิตได้ในราคาถูก ตัวชิพเองสามารถเลือกโปรแกรมเป็น LoRa หรือ GFSK ก็ได้ โดยหากเลือกเป็น LoRa ก็จะทำให้ส่วนมอดูเลชันพิเศษที่เป็นสิทธิบัตรของ Semtech ทำงาน ตัวชิพนี้สามารถหาซื้อได้ทั่วไปทั้งจาก Semtech เองหรือจากพาร์ทเนอร์ที่ขอไลเซนส์ไปผลิต
* ชิพ SX125x ที่เป็น concentrator (RF front-end receiver) และ SX13xx ที่เป็น baseband processor สำหรับการทำงานเป็นเกตเวย์ โดยจะทำให้รองรับได้ 8 ช่องสัญญาณพร้อมกัน รุ่นถัดไปของชิพเซ็ตจะมีความสามารถ geolocation ทำให้หาตำแหน่งของโหนดด้วยความแม่นยำ 50-100 เมตรได้ ซึ่งจะมาแก้ไขปัญหาของโมดูล GPS ที่ใช้พลังงานสูงเกินไป นโยบายของ Semtech จะขายชิพเซ็ตของเกตเวย์เฉพาะพาร์ทเนอร์ที่มีความร่วมมือกันเท่านั้น เนื่องจากเป็นตลาดที่เฉพาะสำหรับผู้ให้บริการ

อนึ่ง การใช้ชิพ SX127x มาทดแทนเกตเวย์สามารถทำได้ด้วยการปรับแต่งซอฟต์แวร์ให้รองรับโพรโทคอลตามที่ต้องการ แต่จะมีผลกระทบในแง่ของ network capacity เนื่องจากรองรับแค่ช่องสัญญาณเดียว จึงอาจเกิดดีเลย์ได้มากหากมีอุปกรณ์จำนวนเยอะอยู่ในบริเวณนั้น

## LoRa กับ LoRaWAN เกี่ยวข้องกันอย่างไร
ทาง Semtech ได้ร่วมก่อตั้ง LoRa Alliance ที่กำหนดโพรโทคอลมาตรฐาน LoRaWAN ขึ้นมา เพื่อให้สามารถเชื่อมโยงข้อมูลจาก LoRa เข้าสู่เครือข่ายอินเตอร์เน็ตได้ จุดขายของ LoRaWAN แบ่งเป็น 6 ประเด็นคือ bi-direction / standard protocol / secure end-to-end / easy commissioning / mobility / scale การสื่อสารในแบบ LoRaWAN จะเป็นแบบ star topology โดยมีรัศมีที่ครอบคลุมประมาณ 3-5 กิโลเมตร/เกตเวย์ การสื่อสารภายใน LoRaWAN จะเป็นแบบ time slot ที่ควบคุม duty cycle ด้วยซอฟต์แวร์ของหน่วยประมวลผล

สถาปัตยกรรม LoRaWAN แบ่งองค์ประกอบออกเป็น 4 ส่วน คือ

1. โหนดคือ อุปกรณ์ที่จะส่งข้อมูลของเซ็นเซอร์หรือรับคำสั่งจากเครือข่าย โดยแบ่งออกเป็น 3 คลาสย่อย
  • คลาส A จะส่งข้อมูลแล้วรอ 2 RX slot ซึ่งทางเกตเวย์จะส่งข้อมูลกลับมาได้เฉพาะใน RX slot หรือต้องรอรอบหน้าที่ตัวโหนดจะติดต่อมาใหม่ การทำงานในคลาส A มีข้อดีที่ใช้พลังงานต่ำสุด
  • คลาส B จะมีการปล่อย beacon frame แล้วรอด้วย RX slot ที่กำหนดจำนวนด้วยซอฟต์แวร์
  • คลาส C จะรอข้อมูลจากเกตเวย์อย่างต่อเนื่อง ทำให้ใช้พลังงานมากที่สุด
2. เกตเวย์ จะเป็นอุปกรณ์ที่รองรับได้หลายช่องสัญญาณซึ่งจะรอ preamble แล้วส่งต่อแพ็คเก็ตข้อมูลไปประมวลผลบนเซิร์ฟเวอร์ผ่านช่องสื่อสาร LAN หรือ 3G/4G ทั้งนี้การไม่ประมวลผลในเกตเวย์ทำให้อาจมีเกตเวย์มากกว่า 1 ตัวที่ตรวจจับเฟรมข้อมูลเดียวกันได้ ซึ่งการคัดแยกในส่วนนี้จะอาศัยกลไก activation บนเซิร์ฟเวอร์ตามที่ระบุในมาตรฐาน LoRaWAN
3. เซิร์ฟเวอร์ จะรับข้อมูลจากเกตเวย์มาประมวลผล โดยจะเริ่มจากการ authenticate ตัวแพคเก็ตด้วย key จากการลงทะเบียน มาตรฐาน LoRaWAN กำหนดว่าการยืนยันแพ็คเก็ตแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบคือ
  • Over-The-Air Activation (OTAA) จะเริ่มจากทางโหนดส่ง DEV EUI (ไม่ซ้ำ), APP EUI, APPK KEY ที่ฝังไว้ในแต่ละโหนดไปให้เซิร์ฟเวอร์ยืนยัน จากนั้นทางเซิร์ฟเวอร์จะส่ง network address มาให้ทางโหนด การทำแบบนี้จะมี delay ในช่วงแรกของการ join เครือข่ายก่อนจะได้ AppSKey และ NwSKey
  • Activation by Personalization (ABP) จะมีการลงทะเบียนสำหรับแต่ละโหนดโดยผู้ใช้ตั้งแต่แรก ทำให้ทั้งสองฝั่งมีการตกลงเกี่ยวกับ AppSKey, NwSKey, Device address ก่อนการเชื่อมต่อเครือข่าย
4. บริการ คือส่วนของ application server ที่จะดึงข้อมูลจากเซิร์ฟเวอร์มาประมวลผลจนเป็นบริการต่อไป

ทาง LoRa Alliance ได้เผยแพร่เอกสาร LoRaWAN ที่สามารถดาวน์โหลดได้จาก[เว็บไซต์](https://www.lora-alliance.org/For-Develop…/LoRaWANDevelopers)หลังจากกรอกแบบฟอร์มยืนยันตัว (ฟรี) ทำให้มีการพัฒนาซอฟต์แวร์ในส่วนต่างๆออกมาในหลายรูปแบบ รวมทั้งมีการเปิดบริการที่ให้ทดลองใช้พรี เช่น [The Things Network](https://www.thethingsnetwork.org/) ที่รองรับทั้ง OTAA และ ABP

จุดพิเศษของ LoRaWAN คือ การจัดการแพ็คเก็ตข้อมูลบนเซิร์ฟเวอร์โดยเกตเวย์หลังจากเช็ค preamble จะส่งผ่านมาให้เลย จึงอาจเป็นไปได้ที่จะมีเกตเวย์มากกว่า 1 ตัวที่ได้รับแพ็กเก็ตเดียวกันและส่งต่อมาที่เซิร์ฟเวอร์ ทั้งนี้ ส่วน payload ของแพ็คเก็ตจะถูกเข้ารหัส AES 128บิต จึงมีเฉพาะเซิร์ฟเวอร์ที่เกี่ยวข้องจะถอดรหัสได้ (สมมุติฐานว่าไม่มีการดักฟัง) การจัดการโหนดที่อยู่ในพื้นที่จึงเป็นไปได้ ทำให้ผู้ให้บริการเครือข่ายในหลายประเทศได้เริ่มออกโมเดลของการคิดค่าใช้จ่ายมาแล้ว

นอกจากนี้ การทำ roaming ก็เป็นไปได้ด้วยการเชื่อมต่อระหว่างเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งเมื่อพิจารณาถึงประเด็นที่ LoRaWAN ได้กำหนดช่องสัญญาณบังคับสำหรับแต่ละประเทศเอาไว้ ทำให้อุปกรณ์ที่ติดตั้งในพาหนะที่ต้องเดินทางข้ามพรมแดน อาจจะสลับจากช่องสัญญาณของประเทศหนึ่งไปสู่อีกประเทศหนึ่งได้ ขอเพียงย่านความถี่ของทั้ง 2 ประเทศมีความสอดคล้องกัน

การนำ LoRaWAN มาเป็นจุดขาย
ทาง LoRa Alliance ได้กำหนดผู้เกี่ยวข้องออกเป็นหลายระดับตามสิทธิที่จะเกี่ยวข้องกับมาตรฐาน LoRaWAN ได้แก่ sponser ($50k/ปี) contributor ($20k/ปี) adopter ($3k/ปี) สถาบันการศึกษา/หน่วยงานไม่หวังผลกำไร (ไม่มีค่าใช้จ่าย) และบุคคลทั่วไปที่สามารถดาวน์โหลดเอกสารได้ ธุรกิจที่ต้องการเข้ารับการ certification ว่าทำงานได้ตาม LoRaWAN และรับสิทธิในการพิมพ์โลโก้ LoRa Alliance อย่างน้อยต้องอยู่ในระดับ adopter ซึ่งหน่วยงานที่รับ certification ในเอเชียจะอยู่ที่ไต้หวัน

การเลือกระหว่าง LoRa หรือ NB-IoT
เทคโนโลยี LoRa (อิงตามข้อกำหนด LoRaWAN) และ NB-IoT เลือกที่จะใช้แนวทางต่างกันในการให้บริการ LPWAN
| ประเด็น | LoRaWAN | NB-IoT |
| ย่านความถี่ | ISM band | LTE subband |
| จุดขาย | ราคาถูก มาตรฐานเปิด | QoS |
| จุดอ่อน | รับรอง QoS ยาก | ต้นทุน ยังไม่มีของจนกว่า Q2/Q3 2017 |

ความคิดเห็นส่วนตัวเกี่ยวกับ NB-IoT ที่อาจเกิดได้ยากในประเทศไทย น่าจะเป็นค่าใช้จ่ายของอุปกรณ์/ซอฟต์แวร์ที่จะต้องเพิ่มเข้าไปใน LTE basestation ซึ่งหากไม่มีธุรกิจขานรับจำนวนมากพอ ทางผู้ให้บริการทั้ง 3 ค่ายน่าจะไม่ขยายฐานการติดตั้งให้ครอบคลุมพื้นที่ต่างๆ โดยอาจจะมีแค่บางพื้นที่สำหรับทำเป็น demo site

ในขณะที่ LoRa ได้เปรียบในแง่ที่มีอุปกรณ์ขายทั่วไปอยู่แล้ว รวมทั้งต้นทุนเครือข่ายก็ต่ำมาก เช่น อาจทำให้ครอบคลุมแค่วงรัศมี 2-3 กิโลเมตรแล้วใช้การทำข้อตกลงระหว่างผู้ให้บริการรายย่อยอื่นๆในการทำ roaming ให้ครอบคลุมพื้นที่ ดังนั้นค่าใช้จ่ายของ air time/data plan ที่เก็บน่าจะต่ำมาก หรืออาจแฝงค่าบริการลงไปในส่วนของอุปกรณ์แทนได้

## คิดว่า LoRa จะเกิดขึ้นไหมในประเทศไทย
ความคิดเห็นส่วนตัวคือ **เกิดได้ค่อนข้างแน่นอน ถึงแม้ กสทช.จะทำตัวเป็นเต่าขวางทางอยู่** เพราะการที่เราจะสามารถสร้าง LPWAN สำหรับหมู่บ้าน สำหรับตำบล สำหรับเมืองได้ในทุกระดับ จะทำให้ business model ใหม่ๆขยายตัวได้เหมือนระเบิดเลยทีเดียว

หากเปรียบเทียบง่ายๆคือ LoRa เป็นแพลตฟอร์มที่เปิดให้ทุกคนสร้าง LPWAN ได้ ไม่แตกต่างไปจาก Youtube ที่เปิดให้ทุกคนสร้างช่องทางสื่อของตัวเองได้ ในขณะที่ระบบสัมปทานของย่านความถี่แบบเดิมๆคงเปรียบได้เหมือนกับการประมูลโทรทัศน์ดิจิตอลในตอนนี้ แค่ยังโชคดีกว่าตรงที่มีแค่ 3 ค่ายในตลาด

อ้างอิงจาก: http://www.tesa.or.th/mood5/mod/forum/discuss.php?d=2188
หน้า: [1] 2 3 ... 10